วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2550

พาเพื่อนเดินเที่ยววัดทำบุญที่วัดอ้อน้อย


เมื่อวันที่ 18สิงหาคมที่ผ่านมา มีโอกาสพาเพื่อนชาวสิงคโปร์ที่เลื่อมใสในพระองค์หลวงปู่พุทธะอิสระไปกราบ
พร้อมกันนี้ก็ืถือโอกาสพาเดินทัวร์รอบวัดสักรอบหนึ่ง พอได้เหงื่อนซึมๆ ต่างคนต่างอิ่มกาย อิ่มใจ อิ่มบุญกลับบ้าน ขากลับรับองค์หลวงพ่อผาสุก(จำลอง) ซึ่งทำเรื่องจองไว้ตั้งแต่คราวที่ท่านเริ่มดำริสร้าง จากหลวงปู่ด้วย...

วันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2550

ไหว้ครูผู้เป็นแม่แบบ

วันที่ 12 ที่ผ่านมา คณะพระวิปัสสนาจารย์ได้มาไหว้ครูกรรมฐานเช่นกัน เราสังเกตว่าหลวงปู่ปิติมาก มีบทกลอนจากพระวิปัสสนาจารย์มากราบคารวะองค์ครูบาอาจารย์ของเรา ดังนี้.....

“ไหว้ครูผู้เป็นแม่แบบ”

ท่ามกลางกระแสสวด ของผู้บวชในคราวหลัง
อดีตเคยเด่นดัง แล้วก็พังมาหลายคราว
เรื่องงานมันสับสน บวชแก้บนเพื่อสืบสาว
ไม่ละเอียดในเรื่องราว จนบางคราวต้องอับจน
หมกมุ่นและวนเวียน จนจวนเจียนจะอับจน
ถึงขั้นทำลายตน ให้หลุดพ้นจากปัญหา
เหมือนโชคยังมีโชค ไม่หลุดโลกหมดเวลา
ตัดใจบรรพชา อุปสมบทเพื่อหยุดพัก
น้อมจิตคิดบูชา ยึดสัมมาไว้เป็นหลัก
โชคดีที่ได้พัก จึงหยุดยั้งระวังตน
แต่ก็มาจนแต้ม ไม่อยากแย้มให้ใครยล
ทางไปเริ่มสับสน เรียนหรือว่าเข้าป่าดี
ค้นหาความแตกต่าง ในทุกอย่างไปทุกที่
เสาะหาบรรดามี ครูอาจารย์ชำนาญทาง
เพิ่งพบสบโอกาส จะไม่พลาดให้ถากถาง
“หลวงปู่ช่วยชี้ทาง” ใสสว่างอย่างตั้งใจ
แต่นี้จะบุกบั่น เพื่อทำมันให้สดใส
ไม่คลุมเครือกระจ่างใจ ยืดอกได้ไม่อายคน
มุ่งมั่นตั้งสำนัก เผยแผ่หลักฝึกหัดตน
แม่แบบคือยอดคน เป็นตัวอย่างกระทำจริง
สักวันจะตั้งมั่น ปณิธานอันสูงยิ่ง
จะต้องเป็น“พระจริง” มอบทุกสิ่งให้ “พุทธะ”
ช่วยคนให้พ้นทุกข์ เลิกเคล้าคลุก“กองขยะ”
กำจัดอาสวะ เลิก ลด ละ เรื่องบาปเวร

กราบครูผู้ชี้นำ
เปิดทางธรรมให้ได้เห็น
แต่นี้จะนับเป็น
ต้นแบบอย่างทางทำดี
“พุทธะอิสระ”
ชื่อนี้จะอยู่ทุกที่
พุทธธรรมบารมี
แผ่ราศีทั่วจักรวาล

กราบแทบเท้าด้วยความเคารพอย่างสูง
ฐานิสสโรภิกขุ
วัดขันติเมตตา (หนองผู้เฒ่า)
อ. ด่านมะขามเตี้ย จ. กาญจนบุรี
12 / ส.ค. / 50
081-2944714

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550

กิจกรรมงาน12สิงหาวันไหว้ครูหลวงปู่พุทธอิสระ


อิ่มกาย อิ่มใจ อิ่มบุญ กลับบ้านหลังจากเดินทางไปร่วมงานพิธีไหว้พระคุณครูหลวงปู่พุทธอิสระ งานนี้มีผู้คนเข้ามาร่วมงานอย่างมากมายหลายพันคน เห็นแ้ล้วชื่นใจแทนหลวงปู่ที่ลูกศิษย์ลูกหายังไม่ลืมพระคุณคุณครูบาอาจาย์ วันสำคัญเช่นนี้ต่างเข้ามากราบและล้างเท้าคุณครูบาอาจารย์ สภาพอากาศวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสมากๆ แดดออกอย่างแรง แต่ทุกๆคนก็ไม่ลดละ ต่างรอคอยให้ถึงเวลาสำคัญที่จะได้เข้าไปกราบคุณครูบาอาจาย์ แต่ช่วงบ่ายๆ กลับมีฝนตก แดดออกอย่างแรง ช่วยลดอุณหภูมิไปได้เยาะ เพราะทุกๆคนก็อยากจะเข้ามากราบ จึงเกิดมีรายการเบียดเสียดกันพอสมควร และหลวงปู่ท่านเองก็นั่งให้บรรดาศิษยานุศิษย์ได้ล้างเท้าด้วยความเมตตา แม้นวันนี้ท่านจักไม่ค่อยสบายนัก แต่ท่านก็ฝืนสุขภาพ ด้วยความรักและเมตตาที่มีต่อศิษย์ทุกๆท่าน

ประมวลภาพเหตุการณ์ ที่ link หัวข้อ"เรื่องราวกิจกรรมของชาวธรรมะอิสระ"

http://picasaweb.google.com/onoi.wat/12

วันพฤหัสบดีที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2550

ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนธรรมอิสระ (ศรช)




ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนธรรมอิสระ
หรือตึกแดง คือศูนย์การศึกษาของเด็กและเยาวชน โดยเน้นการสร้างอนาคตของชาติให้มีคุณภาพ ในปัจจุบันศูนย์แห่งนี้รองรับเยาวชนวัยต่างๆไว้ในอุปการะกว่า 60 ชีวิต อยู่ภายใต้การดูแลบริหารโดย
มูลนิธิธรรมอิสระ และ หลวงปู่พุทธอิสระ ซึ่งท่านตระหนักถึงเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของชาติสืบต่อไป
มูลนิธิธรรมอิสระจัดให้เยาวชนได้รับการศึกษาตั้งแต่วัยเยาว์ จนถึงปริญญาตรี โดยมูลนิธิธรรมอิสระรับผิดชอบ
ดูแลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการศึกษา การกินอยู่ต่างๆเบ็ดเสร็จ ลักษณะการเรียนของศูนย์แห่งนี้จัดให้เยาวชนเีรียนหนังสือตามหลักสูตรภาคปกติ 50% และ เรียนรู้สายจริยะํธรรม รู้หน้าที่ รู้ความรับผิดชอบ รวมทั้งฝึกอาชีพ 50%
แหล่งเรียนรู้ฝีกงานของเยาวชนเหล่านี้คือกิจกรรมการงานต่างๆภายในวัด ไม่ว่าการเกษตร และงาานศิลปะพุทธศิลป์ในโรงเจหอคุณธรรมฟ้า และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหลวงปู่ได้ฝึกฝนเด็กเหล่านี้ด้วยจิตรเมตตาและสร้างโอกาสใหม่ให้กับเยาวชนเหล่านั้น ด้ังนั้นนอกเวลาเรียนภาคปกติ เยาวชนเหล่านั้นก็จะเข้าไปฝึกงานในโรงงานเซรามิค
เพื่อร่วมสร้างงานศิลปะ ซึ่งหลวงปู่ก็จะจ่ายผลตอบแทนให้กับเยาวชนเหล่านั้น
เพื่อที่ว่าจะได้ฝึกให้เป็นผู้มีวินัย รู้จักสร้างประโยชน์ สร้างอาชีพ
และยังมีรายได้พิเศษเป็นของตนเอง

หลวงปู่พุทธะอิสระ มิใช่เพียงสร้างแต่ศาสนะสถานอันยิ่งใหญ่เ่ท่านั้น แต่ท่านยังได้สร้างเยาวชนของชาติให้เป็นมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพทั้งร่างกาย และ จิตรใจ...

12 สิงหา ขอเชิญร่วมงานวันไหว้ครูหลวงปู่พุทธะอิสระ



12 สิงหาคมนี้ เวลา 13.00 น ณ วัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ขอเชิญศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ทุกท่าน ทุกรุ่น นัดรวมพล ไหว้ครูครั้งแรก ครั้งเดียว ที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจศิษย์ อย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์การเป็นลูกศิษย์ของท่าน
หลวงปู่ท่านได้อนุญาตให้ศิษย์ทุกท่านเตรียมน้ำล้างเท้าหลวงปู่ไปเอง
เราคิดว่า หากศิษย์แต่ละกลุ่มจะเตรียมพานพุ่มดอกไม้ที่มีหญ้าแพรก ดอกมะเขือ และ/หรือข้าวตอก อันเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายไปถวายด้วยก็จะทำให้กิจกรรมนี้มีความหมาย เป็นบุญกิริยาวัตถุครบครันทีเดียว
พร้อมรับหนังสือแจก 2 เล่ม คือ เล่มแรกชื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ คุรุผ้ยิ่งใหญ่ในปฐพี : ปวงศิษย์นี้น้อมบูชาพระคุณครู ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณของศิษย์แห่งพุทธะอิสระ (ภาคการปฏิบัติธรรม) และเล่มที่สองชื่อ สุญญตสมาธิ
รับรองว่า อ่านแล้ว วางไม่ลง ทีเดียวละ
เล่มที่หนึ่งได้เปิดตัวครั้งแรก พรีวิว ไปแล้วเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม เมื่อหลวงปู่ได้แจกให้แก่คณะพระวิปัสสนาจารย์
ช่วงบวชเนกขัมมะอาสาฬหบูชา มีผู้ไปขอพระสงฆ์ที่ได้รับมาแล้วไปแอบอ่านก่อน 2 ราย ถึงกับน้ำหู น้ำตาไหล ไปแล้ว
เมื่อเช้าวันเข้าพรรษา อาจารย์มณีรัตน์ พิธีกรใหญ่ของวัดอ้อน้อย ได้อ่านให้ผู้บวชเนกขัมมะฟัง เป็นหนังตัวอย่างไปแล้ว 2 บทความ ทำเอาคนอ่านเองน้ำตาซึมไปเลย
สำหรับคนฟัง ไม่ต้องบอกว่า ใจจดใจจ่อ รออ่าน รอรับแจกหนังสือ สักแค่ไหน
ช่วยบอกกันต่อๆ ด้วย อย่าพลาดเด็ดขาดนะ จะบอกให้


วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550

เชิญบูชาองค์หลวงพ่อผาสุข (จำลอง)



ขอเชิญร่วมบูชาองค์หลวงพ่อผาสุข(จำลอง)หรือ พระศรีอริยเมตตรัย องค์พระสร้างจากทองเหลือง ปิดทองคำเปลว ลงสี ซึ่งองค์หลวงปู่จัดสร้างจำกัดจำนวนเพียง 199 องค์ บูชาด้วยการบริจาคทองแดงจำนวน 1000 กก.(ประมาณ250,000บาท) เพื่อสมทบทุนสร้างองค์พระนาคปรกขนาดใหญ่ประมาณ 20x45ม. ประดิษฐาน ณ หลังโรงเจหอคุณธรรมฟ้า แจ้งความจำนงขอบูชาได้ที่มูลนิธิธรรมอิสระ วัดอ้อน้อย

ตามธรรมเนียมความเชื่อของคนจีน การได้บูชาองค์หลวงพ่่อผาสุขด้วยพลังแห่งองค์ท่านจัำกนำมาซึ่งความสุข ร่มเย็น มั่งมี และความสำเร็จ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนจีน คนญี่ปุ่นอย่างมาก

วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2550

บทกลอนจากพระวิปัสสนาจารย์


เมื่อวันที่ 10 - 20 กรกฎาคมนี้ หลวงปู่ได้อบรมคณะครูวิปัสสนาจารย์ที่จะไปสอนพระบวชใหม่ในช่วงพรรษานี้ จำนวนประมาณ 200 รูป วันสุดท้ายที่จบงาน มีพระรูปหนึ่งได้อ่านกลอนที่เขียนถึงหลวงปู่ คุรุผุ้ประเสริฐ ได้อย่างน่าประทับใจ เราแอบเห็นบางท่านใช้ทิชชูซับน้ำตาเลยละ เรารีบไปขอถ่ายเอกสารมา แล้วส่งไปให้ก้องเกียรติออกในรายการ สภาธรรมของ ASTV เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ทราบว่า ท่านก็บังเกิดปิติเล็กๆ สิ่งเหล่านี้คงทำให้ครูบาอาจารย์หายเหนื่อยบ้าง หลังต้องขับเคี่ยวกับลูกศิษย์ประเภทที่ต้องเข็นเขาลงครกแบบพวกเรา ใจความบทกลอนชิ้นนี้ มีอยู่ว่า......

เมื่อเย็นหนึ่ง พระพี่ รี่มาหา
ว่าตำบล โทรฯมา หากระผม
รับฟังความ ด้วยจิต คิดนิยม
ให้อบรม วิปัสสนา น่าแปลกใจ

ตำบลว่า เผื่อมา ใช้ประโยชน์
ใจลิงโลด อบรม กันที่ไหน
พอได้รับ เอกสาร ต้องแปลกใจ
เอ๊ะทำไม กติกา มันมากจริง

หันไปดูระเบียบ ยิ่งงงหนัก
เขาให้หลัก กติกา มาหลายสิ่ง
ผู้ที่เข้าอบรม ต้องประวิง
อย่าทำสิ่ง เหลวไหล ดูไม่งาม

ปราบพยศ ลดมานะ ละทิฐิ
ทรงสติ ชักงง เกิดคำถาม
ดำริเป็น สัมมา พอทำตาม
แต่ถึงยาม นี้แล้ว เลยตามเลย

เพราะรับปาก รับคำ เป็นมั่นเหมาะ
จะปากเปราะ เปลี่ยนไป ไม่กล้าเอ่ย
การอบรม ทำอย่างไร เราไม่เคย
ไม่กล้าเฉย ปล่อยโอกาส ให้ผ่านไป

เมื่ออยากได้ ลูกเสือ เข้าถ้ำเสือ
เพราะไม่เชื่อ คำพูด ที่ขานไข
เคยได้ยิน หลายอย่าง ไม่เหมาะใจ
แล้วทำไม จึงจะทิ้ง โอกาสทอง

มีคนเคย วิจารณ์ ปู่พุทธะ
หลายจังหวะ ดี-ไม่ดี มีทั้งสอง
มหาเพื่อน เคยพูด เป็นทำนอง
เคยมาตรอง คลางแคลง จนแหนงใจ

อุปัชฌาย์ ก็พูด ไปอีกอย่าง
ท่านปล่อยวาง ลาสิกขา เพื่อผลักไส
ละลาภยศ ตำแหน่ง เอาวินัย
จึงแปลกใจ อะไรแน่ คือของจริง

ตัดสินใจ เข้ามาดู ให้รู้ชัด
เพื่อขจัด ความไม่รู้ ในหลายสิ่ง
สิบวันคืน ได้สัมผัส รู้ของจริง
ใจต้องนิ่ง เกือบไป เสียแล้วกู

เกือบถลำ ตัวลง ในนรก
เกือบจะพบ ความโง่ น่าอดสู
พึ่งตระหนัก พบแล้ว “คำว่าครู”
ขนลุกซู่ ยิ่งพา น้ำตาซึม

แก้จริต จิตตก ยกให้ขึ้น
ให้หยัดยืน สง่า น่าเคร่งขรึม
ปฏิภาณ ฉับไว ยิ่งไม่ลืม
มันด่ำดื่ม ในจิต ยอมมอบใจ

เมื่อมาใหม่ เกือบแย่ แก้ทิฐิ
คอยตำหนิ พวกครู ดูแบบไหน
เราไม่ผิด ตัดคะแนน ได้อย่างไร
หงุดหงิดใจ งี่เง่า ไม่ได้ความ

ถูกกระแทก ฝาบาตรหล่น ก็โดนตัด
มันอึดอัด หลายอย่าง เกิดคำถาม
นั่งเก็บกรวด เก็บหิน ไม่ได้ความ
เรียงอย่างงาม ไม่ผ่าน ไม่เข้าใจ

โอ้ทิฐิ มานะ เรานี้หนอ
มันชูคอ วางหน้า มาแต่ไหน
หยิ่งทะนง หลงตัว ไม่กลัวใคร
คิดอะไร พูดอะไร ตามใจตัว

มาบัดนี้ รู้แล้ว ได้สำนึก
ที่เคยตรึก เคยคิด มันผิดทั่ว
ขาดสติ ร่ำไป ไม่รู้ตัว
จิตเริ่มมัว ตาเริ่มมอง ออกนอกทาง

ขอก้มกราบ แทบเท้า องค์คุรุ
ในจิตนี้ บรรจุ คำสอนสั่ง
จะชัดเจน กระทำ อย่างระวัง
ทุกทุกอย่าง ครูสอน ไม่นอนใจ

บทสุดท้าย ตั้งใจ อยู่ใกล้ชิด
แต่ยังติด คำสัญญา มาไม่ได้
สักวันหนึ่ง ปลดภาระ สัญญาใจ
จะทุ่มใจ ทำงาน สนองคุณ

ด้วยความเคารพอย่างสูง
พระโชคชัย ฐานิสสโร
วัดขันติเมตตา (หนองผู้เฒ่า)
อ. ด่านมะขามเตี้ย จ. กาญจนบุรี
20 / ก.ค. / 50
081-2944714

รับสมัครผู้ร่วมเขียนบทความ


เรียนเพื่อนสหธรรมมิกเนื่องจาก blog แห่งพึ่งเริ่มพัฒนามาสักระยะหนึ่งไม่นานมานี้ เพื่อเป็นการร่วมเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและกิจกรรมด้านต่างๆภายในวัดอ้อน้อย และ โรงเจหอคุณธรรมฟ้า อีกทั้งเป็นการร่วมกันทดแทนคุณคุณครูบาอาจารย์ ดังนั้นขอเรียนเชิญท่านผู้สนใจร่วมส่งบทความ เรื่องราว ภาพถ่าย หรืออาจจะเป็นข้อมูล พุทธประวัติขององค์เทพ พระอรหันต์ พระโพธิสัตว์ ต่างๆที่ประดิษฐานภายในวัดอ้อน้อย และ โรงเจหอคุณธรรมฟ้า เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเรียนรู้สืบต่อไป
ซึ่งท่านสามารถร่วมส่งเรื่องราว ข้อเขียนต่างๆ ทั้งภาคภาษาไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และอื่นๆ มาให้กับคณะทำงานผู้่ร่วมพัฒนาได้นำขึ้นเผยแพร่ต่อไป

คณะผู้จัดทำ onoi.wat@gmail.com

เบื่องหลังความยิ่งใหญ่ของพุทธศิลป์ในโรงเจหอคุณธรรมฟ้า


โรงเจหอคุณธรรมฟ้า ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นยิ่งใหญ่งดงามด้วยพุทธศิลป์ขั้นสูงแขนงต่างๆ เกินกว่าผู้หนึ่งผู้ใดจะรับผิดชอบสร้างได้ทั้งองค์ประกอบ ขนาด สัดส่วนต่างๆ จะต้องดำเนินการและคำนวนเป็นอย่างดีให้ถูกต้องเป็นไปตามแบบแผนพิธีการสร้างโรงเจ ด้วยปัจจัยแวดล้อมต่างๆหลวงปู่พุทธอิสระท่านตระหนักถึงปัญหาต่างๆเหล่านั้น จึงจำต้องสร้างโรงงานขึ้นมาภายในวัดอ้อน้อยเพื่อรองรับงานสร้างพุทธศิลป์
ซึ่งท่านสามารถควบคุมการออกแบบ การสร้าง เรื่องราวการสร้างจะใช้ช่างศิลป์ทั้งจากไทย และต่างชาติ ทั้งรองรับการฝึกงานของนักเรียนศนช.ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียนวัยต่างๆที่
ทางมูลนิธิธรรมอิสระให้การอุปการะเลี้ยงดู และส่งเสริมการศึกษาอยู่ เพื่อที่ว่าจะได้ให้เยาวชนเหล่านั้นได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งเป็นการฝึกฝนวิชาชีพ เพื่อที่ว่าต่อไปตนเองจักสามารถเลี้ยงดูตนได้ตามสมควรต่อไปในอนาคต ถือเป็นการสร้างเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสู่สังคมในอนาคตสืบต่อไป...

ด้วยคณะศิษยานุศิษย์ ต่างตระหนักเห็นถึงภาระอันยิ่งใหญ่ของหลวงปู่พุืืทธอิสระ ซึ่งท่านต้องตรากตรำในการสร้างถาวรวัตถุอันยิ่งใหญ่และศักสิทธิ์นี้ เพื่อมวลหมู่มนุษยชาติในวันนี้ และวันหน้า โดยมิได้แบ่งแยกชนชาติและศาสนาอื่นใด เพื่อดำรงค์สถานแห่งนี้ไว้ใ้ห้อนุชนรุ่นต่างๆได้มีสถานที่ได้พักพิงกาย ใจ เจริญสติ สืบต่อไป...


ประมวลภาพบอกเล่าเรื่องราว...



สร้างกระถางธูปมังกร กระถางธูปหงส์ และ เทพทวารบาลในวันเข้าพรรษา


ภาพถ่าย ณ โรงงานเซรามิค โดยช่างปั้นแบบหล่อเป็นช่างชาวธิเบตเป็นนายช่างใหญ่ มีผู้ช่วยช่างชาวไทย (ส่วนหลวงปู่เป็นผู้ออกแบบ ควบคุมการผลิต และปรับแต่งแก้ไขเอง และผู้สั่งการ) ช่างฝีมือสุดยอดอลังการงานสร้างจริงๆครับ น้ำหนักของกระถางธูปประมาณคราวๆ ไม่หน้าจะต่ำกว่า 2 ตัน (2,000 กก.) เฉพาะค่าโลหะต้องใช้งบประมาณกว่า 400,000 บาท เท่าที่สอบถามค่าจ้างช่างหล่อจากหลวงปู่ท่านแจ้งว่า โรงหล่อเค้าคิดค่าหล่อใบละ 250,000 บาท
เทพทวารบาล (ฉินฉงกับเว่ยฉือกง) หรือที่คนไทยจีนเรียกมึ่งซิ้ง


ประวัติความเป็นมา:

เทพพิทักษ์ประตูบ้านประตูเมือง ภาพทวารบาลที่เป็นนักรบสมัยโบราณนั้นมักจะเป็นภาพขุนศึก ซึ่งอยู่ในยุค ต่าง ๆ กันของประวัติศาสตร์ เช่น แม่ทัพงักฮุย ขุนศึกจ้าวอวิ๋น ขุนพลซุนปิน ขุนพลหลง เจวียน เป็นต้น แต่ในปัจจุบันภาพทวารบาลที่นิยมกันมาก คือ ขุนศึกฉินฉง และขุนศึกเว่ย ฉือกง ในสมัยราชวงศ์ฮั่น "ศรีษะสวมหมวกเหล็กแสงแวววาบ กายหุ้มเสื้อเกราะเกล็ดมังกร พวกเขา เดิมเป็นวีระบุรุษยอดเยี่ยมในการรบ ต่อมาลดตำแหน่งเป็นเพียงทวารบาล" ข้อความ ข้างต้นได้กล่าวไว้ใน ตอนที่ 14 ของเรื่องไซอิ๋ว โดยได้กล่าวอีกว่า ในสมัยราชวงศ์ถัง หลังจากที่เสนาบดีเว่ยเจิ้งเมิ้งได้ฆ่ามังกรเฒ่าแห่งแม่น้ำจิ้งตายแล้ว พระเจ้าถังไท่จงมักจะ บรรทมอย่างไม่มีความสุข เพราะนอกห้องบรรทมมักจะมีเสียงขว้างอิฐขว้างดิน ประสม ปนเปกับเสียงร่ำเรียกของเหล่าภูตผีปีศาจ พระเจ้าถังไท่จงได้นำเรื่องนี้ปรึกษาขุนนาง อำมาตย์ แต่ขุนศึกฉินซูเป่าได้ออกมาประกาศตนว่า ข้าน้อยฆ่าคนเหมือนผักปลา ข้าศึก มาราวกองมดมิคณามือ ใยจะเกรงกลัวภูตผีปีศาจเล่า ข้าน้อยกับขุนศึกหูจิ้งเต๋อ (ก็คือเว่ยฉือ จิ้งเต๋อ) ขอขันอาสายืนอารักขาให้" หลังจากที่ขุนศึกฉินซูเป่าและหูจิ้งเต๋อทั้งสองเฝ้าอารักขาที่ประตูตลอดคืน เป็นต้นมา ผลปรากฏว่าหน้าห้องบรรทมเงียบสงบ ไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ เกิดขึ้น พระเจ้าถัง ไท่จงทรงเห็นถึงความยากลำบากของขุนศึกทั้งสอง จึงมีพระราชโองการให้วาดภาพ ของขุนพลทั้งสองลงบนกระดาษ โดยมีภาพลักษณ์ของขุนศึกทั้งสองคือ มือถือขวานหยก เอวเหน็บแส้และธนู ใบหน้าแสดงอาการโกรธเกรี้ยว แล้วติดบนบานประตูทั้งสองข้างของ ราชสำนักตำหนัก 31 แห่ง บริเวณลานราชสำนักอีก 72 แห่ง ปรากฏว่าราชสำนักสงบ ร่มเย็นตลอดมา ต่อมาภายหลัง คนก็ได้ใช้วิธีการดังกล่าว โดยนำภาพขุนศึกติดตรงประตูเป็น ทวารบาล มีบางคนไม่ใช้ภาพเพียงแต่เขียนชื่อของขุนศึกทั้งสองแทนแล้วติดบนประตู ละข้าง ดั้งเดิมนั้นภาพทวารบาลใช้เพียงในเหล่าขุนนางตระกูลสูงเท่านั้น ต่อมาก็ค่อย ๆ แพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป

ซึ่งในวันเข้าพรรษานี้หลวงปู่จักทำพิธีหล่อพร้อมกันกับกระถางธูปมังกร กระถางธูปหงส์ เทพทวารบาล

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2550

โรงเจหอคุณธรรมฟ้า




















พุทธศิลป์ภายในโรงเจ บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ แหล่งเรียนรู้ทางพุทธศาสนานิกายมหายาน รวบรวมศิลปงานวาด และศิลปงานปูนปั้นนูนจากสุดยอดฝีมือช่างจากเมืองเพชรบุรี
งานไม้แกะสลัก เซรามิค และโลหะศิลปจากช่างศิลปชาวธิเบต
งานเซรามิค งานภาพเขียนโดยช่างศิลปชาวไทย หาชมยากมากๆ


Live หลวงปู่​พุทธะอิสระ แสดงธรรม ช่วงบ่าย 11ส.ค.2562

หลวงปู่​พุทธะอิสระ แสดงธรรม ช่วงบ่าย 11ส.ค.2562 ติดตามรับชมได้ที่ Website : https://issaradhamchannel.com/  Facebook : https://www.fa...